เจ้าของบริษัทขนส่งรายใหญ่แห่งหนึ่งมีหน้าที่ขนส่งรถยนต์จากท่าเรือไปส่งดีลเลอร์รถยนต์
วันหนึ่งเกิดปัญหาไม่สามารถขนรถออกจากเรือได้ เนื่องจากประตูรถยนต์ล็อคและกุญแจอยู่ข้างในรถ
ลูกน้องโทรเรียกเจ้าของให้รีบมาดูที่หน้างาน
ตัวเจ้าขอโทรหาช่างผู้เชี่ยวชาญ ได้คำตอบว่าหากจะเอารถออกมีทางเดียวคือต้องทุบกระจกเท่านั้น
ลูกน้องรีบไปจัดหาค้อนปอนมาถือกันสี่คน พร้อมทุบทันที
สถานการณ์ตอนนั้นดึกมากแล้วลูกน้องทุกคนใครๆก็อยากกลับบ้าน
รู้มั้ยครับหัวหน้าตัดสินใจว่ายังไง
หัวหน้าตัดสินใจ ให้หยุดรอก่อน แล้วกลับไปนั่งที่ออฟฟิศคำนวณวันรับของแล้วปล่อยให้รถกลับไปท่าเรือที่ยุโรป แล้วเอากุญแจอีกดอกที่นั้นไข แล้วส่งกลับมาใหม่อีก 2 สัปดาห์ให้หลัง
เป็นการตัดสินใจที่ทุกคนแฮปปี้ ลูกน้องได้กลับบ้าน รถไม่ต้องเสียค่าซ่อม ลูกค้าได้รถตามกำหนดเวลา
ทั้งนี้ตอนนี้หัวหน้ากลับไปคำนวณวันรับของ หัวหน้าได้ลองโทรหาดีลเลอร์ดูลูกค้ารีบใช้รถขนาดไหน ปรากฏว่าลูกค้าสามารถรอได้อีก 1 เดือน เพราะต้องการรอฤกษ์รับรถ หัวหน้าจึงตัดสินใจแบบนั้นได้
การตัดสินใจหลายครั้งหากเรามองแค่สถานกาณ์เฉพาะหน้าที่รีบเร่งอาจทำให้มองข้ามสิ่งที่เห็นหัวใจของเรื่อง ลืมไปว่าคนที่มีสิทธิ์ตัดสินใจและมีส่วนได้เสียในเรื่องมากที่สุด คือลูกค้า
หากเราคำนึงถึงความรู้สึกของลูกน้อง หรือเชื่อคำแนะนำของช่างอาจทำให้สถานการณ์แย่มากกว่านี้ เจ้าของต้องเสียค่าใช้จ่ายในการหาที่ซ่อมกระจก และรถอาจมีตำหนิที่ลูกค้าไม่พอใจได้
คำแนะนำของช่างผู้เชี่ยวชาญนั้นเค้าไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียหรือต้องรับผิดชอบจากเหตุการณ์นี้ เค้าจึงให้คำแนะนำได้โดยไม่ได้รู้สึกถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมา
หลายๆครั้งความลำบากจากการทำงาน การบ่นอย่าไม่พอใจของผู้ร่วมงานหรือผู้ที่ไม่ใช่เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยสำคัญ อาจะทำให้เราลืมเป้าหมายหลัก
ในการตัดสินใจในฐานะเจ้าของกิจการควรคำนึงถึงจุดมุ่งหมายที่สำคัญที่สุด อย่าได้ไขว้เขวไปกับเป้าหมายรอง
ขอบคุณบทความจากหนังสือพิมกรุงเทพธุรกิจ
อ่านบทความอื่นๆได้ที่ www.facebook.com/sawmooon
ติดต่อ 084-919-5600,098-424-7672 Email: toytorich@gmail.com
Facebook : www.facebook.com/toytorich Line : @toytorich