ว่ากันด้วยเรื่องไม้

ไม้กระพี้เขาควาย

เป็นไม้ยืนต้นสูงประมาณ15-25เมตร เปลือกสีเทานวล เรียบและแตกเป็นสะเก็ดตื้นๆ เป็นไม้ที่เหมาะสำหรับใช้ในการทำเครื่องเรือน เครื่องแกะสลัก เป็นไม้ที่เหมาะมากในใช้เล่นหมากรุกไทยเพราะหนาและมีน้ำหนัก

ราคาขายอยู่ที่ประมาณ 5,000 บาท ต่อท่อนขนาดหน้าแก่น30-40Cm ความยาว 60Cm.

ไม้ประดู่

เป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ลำต้นมีความสูงกว่า 25 เมตร  เนื้อไม้แข็งมีความทนทานสูง เนื้อไม้มีสีสวยงาม มีสีต่างกันถึง 7 แบบ สีแดงอมเหลือง ถึงสีแดงอิฐเข้ม มีเส้นสีแก่กว่าสีพื้น เสี้ยนสนเป็นริ้วไสกบตกแต่งชักเงานได้ดี ค่าความแข็ง(Hardness)อยู่ที่ 925 กก. มีความทนทานตามธรรมชาติ มักใช้ในงานก่อสร้างทั้งภายในและภายนอกอาคารและทำเฟอนิเจอร์

ราคาขายขนาด กว้าง 50 cm ยาว150 cm หน้า 3.5 หนา 8.5 Cm แผ่นละประมาณ 2200 บาท 

ไม้ก้ามปู(ไม้จามจุรี)

มีเรียกกันหลายชื่อ เช่น จามจุรี ก้ามปู ฉำฉา สารสร

เป็นไม้ยืนต้นสูงประมาณ 20-30 เมตร เปลือกสีดำ เนื้อไม้มีลวดลายสวยงาม แก่นสีดำ ไม่แข็งมาก มีความยืดหยุ่นในการดัดงอสูงมาก เติบโตได้ดีในหน้าฝน ฝรั่งจึงเรียกว่า Rain Tree ให้ผลผลิตสูงสุดเมื่ออายุ 15 ปี เนื่องจากมีราคาไม่แพงนัก ในช่วงที่ไม้สักราคาแพงมาก นักแกะสลักมักใช้ไม้ก้ามปูแทน 

ไม้ก้ามปูเป็นพืชใช้งานอเนกประสงค์ที่นอกจากใช้งานเนื้อไม้ที่นำมาใช้ในงานแกะสลัก เป็นไม้ทดแทนไม้สักเนื่องจากหาได้ง่ายกว่าและราคาไม่แพงมากแล้วยังใช้เป็นอาหารสัตว์และช่วยปรับปรุงหน้าดินเนื่องจากตระกูลถั่ว 

ไม้ยางพารา

เป็นไม้เศรษฐกิจของไทยที่นิยมปลูกกันมา มักใช้ในงานก่อสร้าง ตกแต่งภายใน ระยะเวลาที่เหมาะแก่การตัดคือ 25 ปีขึ้นไป มีคุณภาพดี งานที่ทำจากไม้ยางพาราจะมีความประณีต มีความหนาแน่สูง การหดตัวน้อย สามารถตกแต่งผิวได้ง่าย

ไม้ไวท์แอช

โดยเป็นไม้หนัก แข็งแรง แข็ง เหนียวและมีความต้านทานต่อแรงกระแทกสูง กระพี้สีเหลืองอ่อนจนเกือบขาว แก่นสีแปรผันจากน้ำตาลเทา,สีน้ำตาลอ่อนจนกลายเป็นสีเหลืองอ่อนมีแนวลายไม้สีน้ำตาล