การได้ออกไปสู่สังคมทำให้เรามีแรงกระตุ้นที่จะก้าวหน้าในชีวิตเพื่อให้คนยอมรับ หากไม่มีสังคมคนเราย่อมไม่มีความอยากแข่งขัน ไม่อยากเอาชนะ ไม่มีแรงกระตุ้น หรือได้รับรางวัล หรือการยอมรับจากมวลชน
ทุกครั้งที่ผมตรากตรำทำงาน ตั้งใจพัฒนาตัวเอง แล้วทำอะไรสักอย่างสำเร็จ พอไปเจอสังคม เช่น เพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันนาน งานเลี้ยง งานแต่งงานเพื่อนที่จะมีคนคุยกันเรื่องความสำเร็จต่างๆ มักจะทำให้เรามีไฟและตั้งเป้าหมายใหม่ที่สูงกว่าเดิมให้กับตัวเอง
หลายๆครั้งสิ่งที่เราตั้งเป้าไว้อาจจะไม่ได้สูงพอที่จะทำให้สังคมยอมรับ แต่แรงกดดันที่อยากให้สังคมยอมรับจะทำให้คุณพยายามได้ดีขึ้น
เป้าหมายบางครั้งก็อาจจะตั้งจากสายตาของสังคม
หากยังไม่ได้รับการยอมรับจากคนก็ยังไม่ถือว่าได้เป็นคน
การยอมรับของคนเปรียบเสมือนผลตอบรับของความสำเร็จ
ตอนเด็กๆผมใช้ชีวิตอยู่ในสังคมโบสถ์คริส และไม่ชอบที่จะเรียนพระคัมภีร์แบบเด็กคนอื่นๆ ผมชอบโดดเรียนออกมานอกกลุ่ม ทำตัวแปลกแยก ชอบออกนอกกรอบ เพื่อนในกลุ่มทำอย่าง ผมไปทำอีกอย่าง
พออายุเริ่มเข้าสู่วัยรุ่นผมเริ่มรู้สึกว่า ว้าเหว่ และเดียวดาย นี่หากเราโตขึ้นไปอีก เพื่อนๆคนอื่นเค้ามีความสามารถที่จะนำอธิษฐาน เทศนาได้ นำเพลงได้ เล่นดนตรีได้ เป็นผู้นำกลุ่มได้ แต่เราทำไม่ได้เราไม่อายเค้าตายเลยเหรอ หากเพื่อนๆที่โตมาด้วยกันเริ่มโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่เรายังทำอะไรไม่ได้เลย มีความสามารถที่ต่ำกว่าคนในวัยเดียวกันมันรู้สึกแย่มากเลย
ยิ่งคิดก็ยิ่งรับไม่ได้ ผมจึงเลิกทำตัวแปลกแยก กลับมาเข้ากลุ่มเรียนแบบเดียวกับเด็กคนอื่นในวัยเดียวกันด้วยความคิดแบบนี้
เพราะผมกลัวตัวเองจะโตตามคนอื่นไม่ทัน และจะกลายเป็นตัวประหลาดในสายตาเพื่อนๆ
นายเอ เพื่อนผมคนนึงใช้ชีวิตออกนอกลู่นอกทางตั้งแต่มัธยมปลาย ไม่ตั้งใจเรียน โดดเรียน สอบตก จนต้องย้ายไปเรียนอาชีวะ เรียนอาชีวะก็โดนแกล้ง เรียนไม่จบ สุดท้ายก็ต้องมาเรียน กศน.จบมัธยมหก ตอนอายุ 20 จึงเริ่มเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งนึง แต่ก็ไม่ตั้งใจเรียน ไม่ค่อยเข้าเรียน เรียนๆโดดๆ ถึงปีสามก็ออกเพราะฐานะทางบ้านส่งไม่ไหวและตัวเองก็เกรดไม่ดีพอที่จะจบได้
ออกมาเรียนรามตอนนั้นอายุ 23 ปี เรียนรามแบบเล่นๆชิลๆ กว่าจะจบก็อายุ 32 ปี ระหว่างนั้นก็ไม่ได้ทำงานอะไรเลย วันๆเอาแต่ขอเงินพ่อแม่ ดูหนัง เล่นเกม นอนดึก ใช้ชีวิตขี้เกียจไปวันๆ
ทั้งๆที่ก็รู้ว่าฐานะทางบ้านไม่ดีพ่อแม่ก็ไม่มีรายได้ แต่ตัวเองก็ไม่ยอมหางานทำทันทีหลังจากที่จบ กลับรอให้หายเหนื่อยจากการเรียนค่อยมาหางานตอนอายุ 33 ปี
ตอนนี้ผ่านมาประมาณ 2 ปี แล้วก็ยังหางานไม่ได้ เพราะอายุที่เยอะ เกรดที่ไม่ดี สาขาวิชาที่จบก็ไม่ตรงกับความต้องการของตลาด ประสบการณ์ก็ไม่มี และก็เลือกงานไม่ยอมทำงานที่ต้องใช้แรงงาน แต่อยากทำงานธุรการง่ายๆในออฟฟิศ
จนถึงวันนี้ก็ยังหางานไม่ได้
ตอนเด็กๆผมเคยเชื่อเสมอว่าพอคนเราอายุมากขึ้นก็จะทำสิ่งต่างๆได้มากขึ้นตามวัย แต่ที่จริงแล้วของบางอย่างวัยช่วยไม่ได้ต้องเริ่มจากการลงมือทำแล้วฝึกฝนจนชำนาญ หากไม่เริ่มซะทีต่อให้อายุมากแค่ไหนก็ทำไม่ได้ซะที
บทความจาก www.toytorich.com/artricle
ติดต่อ 084-919-5600,098-424-7672 Email: toytorich@gmail.com
Facebook : www.facebook.com/toytorich Line : @toytorich