วันนี้มีเมสเสจจากโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษแห่งนึงว่า “ค่าเรียน 3900 บาท/เดือน แถมฟรี 6 เดือน” ผมสนใจจึงต้องการโทรไปสอบถามข้อมูลเพื่อใช้ในการตัดสินใจ
สิ่งที่อยากถามคือ 1. 3900 บาท/เดือน เรียนได้กี่ชม.ต่อเดือน 2.เรียนฟรี 6 เดือนหมายความว่าไง ต้องเรียนกี่เดือนถึงจะได้ฟรี เงื่อนไขเป็นอย่างไร
พอโทรไปหาโรงเรียน ก็ได้คุยกับผู้ชายคนนึง(ไม่แน่ใจว่าใจจริงเป็นชายหรือเปล่า แต่จากเสียงภายนอกเป็นผู้ชายแน่ๆ) ขอเรียกว่าชาย ก แล้วกัน
ผมบอกไปว่าสนใจสอบถามเกี่ยวกับ “โปรโมชั่น 3900 บาท อยากทราบว่าเรียนกี่ชม.ต่อเดือน และเรียนฟรี 6 เดือนต้องจ่ายเท่าไหร่”
ชาย ก: บอกว่า โอเคครับ ก่อนอื่นนะครับ ผมขอแนะนำตัวก่อนครับ ผมชื่อ กอ นะครับ เป็นเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับภาษา ขออนุญาตให้คำแนะนำนะครับ เอ่อไม่ทราบว่า พี่ชื่ออะไรนะครับ
ผม: วีครับ
ชาย ก: ครับคุณวี คุณวีรู้จักโรงเรียนของเรามาจากที่ไหนครับ
ผม : จากSMSที่ส่งมาครับ
ชาย ก : แล้วสนใจเรียนภาษาอังกฤษไปเพื่ออะไรครับ
ผม : ใช้ในการทำงาน และหางานครับ
ชาย ก : เยี่ยมไปเลยครับ แล้วไม่ทราบว่าในปัจจุบันเคยได้ใช้ภาษาอังกฤษอยู่บ้างมั้ยครับ
ผม : ไม่ค่อยได้ใช้ครับ
ชาย ก : อ๋อครับ แล้วเคยได้ใช้ในการสัมภาษงานหรือยังครับ
ผม : เคยครับ
ชาย ก : แล้วเป็นอย่างไรบ้างครับ (ยิ้ม (ผมรู้สึกได้ครับ เพราะได้ยินเสียงหัวเราะหน่อยๆ)) ผลออกมาเป็นยังไง
ผม : ก็......มีทั้งได้งานและไม่ได้งานครับ
ชาย ก : โอเค ครับ คือว่าในตอนนี้เรามีจัดโปรโมชั่นนี้ขึ้นมาเป็นพิเศษ แต่มีเงื่อนไขอยู่คือต้องเข้ามาที่สำนักงานของเรา เพื่อทำการทดสอบระดับก่อนเริ่มเรียน แล้วหลังจากนั้นค่อยเลือกคอร์สที่คุณสนใจครับ
ผม: อ๋อครับ แล้วไม่ทราบว่าค่าเรียน 3,900 บาท / เดือน เรียนกี่ชม.ครับ
ชาย ก : คุณต้องการเรียนภาษาอังกฤษให้ถึงระดับไหนครับ การเรียนภาษาต้องใช้เวลาครับ ไม่ใช้ว่าเรียนแค่นิดหน่อยก็สามารถเก่งได้เลยนะครับ แต่สำหรับโรงเรียนเรามีให้คุณเลือกได้หลากหลายตามความต้องการของคุณ คุณอยากเรียนกี่ชม.ล่ะครับ
ผม : เอ่อ ขอโทษนะครับ คือผมอยากรู้ว่า 3900 บาท โปรโมชั่นเนี่ย เป็นราคาที่รวมแล้วเบ็ดเสร็จหรือยังครับ หรือว่าต้องมีเงื่อนไขอะไรในการให้ได้ราคานี้
ชาย ก : ขอถามนะครับ ไม่ทราบว่า คุณวี รู้จักโรงเรียนของเราใข่มั้ยครับ ทราบหรือไม่ครับว่าค่าเรียนต่อปีอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่
ผม : ครับ ก็น่าจะประมาณ 7-8 หมื่นบาทครับ
ชาย ก : ก็ตามที่คุณวีทราบน่ะนะครับ คือว่าโดยปกติแล้ว ค่าเรียนจะอยู่ที่ประมาณ แสนกว่าๆต่อปี เวลาเรียนก็สามารถเรียนกี่ชม.ก็ได้ ตามที่คุณวี สะดวก แต่ถ้าอยู่ในโปรโมชั่นนี้ก็จะแถมฟรีอีก 6 เดือน ซึ่งก็จะเท่ากับค่าเรียนก็จะถูกลงมากว่าครึ่ง
ผม : งั้นก็คือหมายความว่าที่ว่าค่าเรียน 3900 บาท/เดือน ต้องจ่ายค่าเรียนอย่างน้อยเป็นรายปีแล้วจะได้แถมฟรีอีก 6 เดือนใช่มั้ยครับ
ชาย ก : มันก็ไม่ใช่อย่างนั้นซะทีเดียวครับ รูปแบบการเรียนมีให้คุณเลือกหลากหลาย จะเรียนครึ่งปีก็ได้ครับ จะเรียนเต็มปีก็ได้แล้วแต่คุณวีจะสะดวก
ผม : คือว่าอย่างงี้ครับ ผมสนใจราคาโปรโมชั่น 3900 บาท แต่ผมว่าอาจจะเรียนเป็นช่วงเวลาสั้นๆ อย่างเดือนนึงอย่างเนี่ย ไม่ทราบว่าสามารถเรียนได้มั้ยครับ
ชาย ก : 1เดือนเรียนไปแล้วมันจะได้อะไรมากมั้ยล่ะครับ
ผม : คือ 1 เดือนของคุณอาจจะไม่ได้อะไรมาก แต่สำหรับผมมีเวลาไม่ค่อยมาก ก็อยากจะเริ่มต้นทำไปสักนิดก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที ความรู้ที่ได้มาไม่มาก แต่อย่างน้อยก็ต้องได้อะไรบ้าง
ชาย ก : คืออยากให้คุณเข้ามาที่สำนักงานเราก่อนได้มั้ยครับ แล้วเข้ามาคุยกันเลือกดูว่าคอร์สไหนเหมาะสมกับคุณ ไม่ทราบว่าสามารถเข้ามาภายในวันที่ 31 พฤษคม ได้มั้ยครับ
ผม : :( ผมไม่ค่อยสะดวกครับ ขอบคุณครับิ ผมต้องวางสายแล้ว
ผมรู้สึกว่าอย่างไรบ้างรู้มั้ยครับ
ผมต้องการรู้แค่สองเรื่องตามที่กล่าวมาแล้ว แม้จะทราบเรื่องโปรโมชั่น 6 เดือน แต่ก็ยังรู้เงื่อนไขทั้งหมดไม่ครบ และเรื่องเรียนเดือนละ 3900 บาท ก็พอเข้าใจว่าพอมันรวมแถมฟรี 6 เดือนจะเหลือเดือนละ 3900 บาท แต่ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดอยู่ดีว่าจำนวนเงินที่จะต้องเสียจริงๆมันเท่าไหร่ ถึงจะได้ราคา 3900 บาท
ผมถามอะไรไปก็ตอบผมกลับมาเป็นคำถามตลอด ไม่ได้ให้คำตอบผมซะที
จริงอยู่ว่าบางทีควรที่จะเลี่ยงประเด็นคำถาม แต่ผมว่าหากเจอลูกค้าถามกลับมาถึง 2-3ทีก็ต้องตอบแล้ว
และการเลี่ยงคำถามบางครั้งไม่ควรจะเลี่ยงโดยไม่สามารถตอบอะไรลูกค้าได้เลย
จริงอยู่ว่าการเป็นเซลล์ต้องพูดเพื่อไม่ให้เสียโอกาสในการขาย แต่การปิดบังความจริงอาจจะทำให้ลูกค้าเลิกคุยแล้วไม่กลับมาหาคุณอีกต่อไปก็ได้ และทำให้ทั้งคุณและผมเสียเวลาโดยใช่เหตุ
แทนที่คุณจะบอกความจริงกรองลูกค้าไปเลยตั้งแต่ตอนแรกที่คุยแล้วเอาเวลาไปทุ่มเทวาทศิลป์กับลูกค้าที่เหมาะกับบริการของคุณจะดีกว่ามั้ย
การปิดบังความจริงก็เท่ากับโกหก พอรู้สึกว่าโกหก ผมก็รู้สึกว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลอยู่แน่ๆ ยิ่งหากผมไปตามที่นัดผมก็คงต้องเสียเวลาแน่ๆ และคงถูกไซโค เซ้าซี้ให้สมัครแกมบังคับทำให้ผมรู้สึกเหมือนเป็นผู้ต้องหาที่ทำอะไรผิดอยู่ และการตอบคำถามเรื่องแค่นี้ ไม่เห็นจำเป็นต้องคุยอะไรให้ซับซ้อนเลย ทำไมต้องให้ผมถามคุณอย่างกับการสอบสวน หากคุณตอบชัดๆง่ายๆ ตั้งแต่ถามครั้งแรก ผมก็คงไม่ค่อยสงสัยอะไรมาก เชื่อในสิ่งที่คุณพูด ยอมเข้าไปคุยกันที่สำนักงานแล้ว
หากคุณหลอกล่ออยากให้ลูกค้าสนใจด้วยวิธีการโกหก ผมว่าอย่าดีกว่า มันเสียเวลาทั้งคุณและผม
ยิ่งเล่นลิ้นและเล่นเกมส์มากเท่าไหร่ ปิดบังความจริงมากเท่าไหร่ผมก็ยิ่งรู้สึกไม่ดีต่อการทำธุรกิจของคุณมากขึ้นเท่านั้น
ผมมีเพื่อนอยู่คนที่ทำธุรกิจกับคนใต้
คนใต้ที่คุยกับเพื่อนผมพอคุยกันแล้วรู้สึกว่ามีอะไรน่าเคลือบแคลงใจ แปลกจากที่ตกลงไว้ ไม่ว่างานจะคุยไปถึงไหนก็เลิกคุยทันที แล้วเลิกพิจารณาสิ่งที่ได้คุยกันมาก่อนโดยทันที เพราะถือว่าไม่น่าไว้วางใจ
การตัดสินใจแบบนี้ของคนใต้บางครั้งก็น่าเอาอย่างครับ โดยเฉพาะคนอย่างผม เพราะหลายครั้งที่คุยกันมาเยอะแล้ว ถามเค้ามาหลายอย่างแล้ว แต่พอมาพบอีกทีภายหลังว่ามีอะไรผิดปกติ ผมจะไม่กล้ายกเลิกเพราะเกรงใจทางร้านค้าแล้วก็ยอมซื้อของนั้นมาอย่างเสียมิได้ด้วยเงื่อนไขที่ไม่น่าพอใจนัก
จริงๆแล้วหากมีอะไรที่เป็นเงื่อนไขไม่ถูกใจเรา และเรายังมีสิทธิ์ยกเลิกได้โดยชอบธรรม ผมว่าก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร มันก็เป็นการแฟร์สำหรับผู้บริโภค แต่ควรจะบอกเหตุผลที่แคนเซิลนั้นไปอย่างตรงไปตรงมา
ไม่ว่าเหตุผลนั้นมันจะฟังขึ้นหรือไม่ แต่หากเป็นความจริงยังไงพ่อค้าแม่ค้าก็ควรจะฟังไปพิจารณา
ติดต่อ 084-919-5600,098-424-7672 Email: toytorich@gmail.com
Facebook : www.facebook.com/toytorich Line : @toytorich