สารพัดปัญหานะครับ พอเราต้องทำงานกับคน
ปกติแก้ปัญหาลูกค้าก็วุ่นวายมากอยู่แล้วครับ
ยิ่งมีลูกน้อง มีคนในองค์กรเพิ่มขึ้น ปัญหาต่างๆก็เริ่มมา
แต่ทำยังไงได้ครับ เราทำงานคนเดียวไม่ได้อยู่แล้วครับถ้าอยากจะเติบโต
ก็ต้องเผชิญหน้าเจอกับปัญหาเรื่องคน
หลังจากผมประกาศหาพนักงาน ด้วยการติดป้ายประกาศที่หน้าร้าน
ก็ใช้เวลาไม่นานมีคนติดต่อเข้ามา
เป็นน้องผู้หญิงคนนึง สมมติว่าชื่อแมว
เรียนจบ ม. 3 เป็นคนต่างจังหวัด แต่พักอาศัยอยู่ไม่ไกลจากร้านจึงสนใจในงานนี้
แมวเคยทำงานมาหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นงานในโรงงาน งานเฝ้าร้านเกม
แต่ที่ถูกใจคือ งานล่าสุด แมวเคยเป็นขายเสื้อผ้ามาก่อน
เท่าที่สัมผัสพูดคุย แมวจะเป็นคนค่อนข้างมีความมั่นใจมาก ถามไว ตอบไว
มีมนุษยสัมพันธ์ ช่างพูดคุย ชอบยิ้มแย้ม ร่าเริง
ผมรับแมวเข้ามาทำงาน
ผมเซ็ตระบบร้านแบบง่ายๆ ด้วยการมีเอกสารให้ลงเวลาเข้างานออกงาน
มีสมุดบัญชีลงยอดขาย จำนวน และชื่อสินค้า
ทั้งร้านต้องติดราคาสินค้าทุกชิ้น แมวต้องรู้ได้โดยไม่ถามว่า สินค้าอะไรขายเท่าไหร่
ผมติดเงินทอนไว้ที่ร้านไว้ด้วย ที่จริงก็ใช้เป็นเงินหมุนสำหรับต้องใช้เงินด่วน ก็มีบันทึกเงินหมุน
เช่น ไปส่งของที่ไปรษณีย์
ผมใช้ระบบที่ยืดหยุ่น คือ ยอมให้ลูกค้าต่อราคาสินค้าได้ประมาณนึง แต่ต้องไม่เกินที่ผมกำหนด
โดยคนที่มีอำนาจให้ราคาลูกค้าคือแมวเลย
**ระบบนี้อันตรายมากครับ ทำให้เกิดช่องโหว่ในการทุจริตได้ แต่ผมคาดการณ์ไว้อยู่แล้ว คือปิดตาข้างนึงไป ถือว่าเป็นอินเท็นซีพให้น้องไป
จับได้ก็โดน ถ้าจับไม่ได้ก็โชคดีไป แต่อยากให้ร้านมีความยืดหยุ่น ลูกค้ามาซื้อของก็สามารถต่อราคาได้ ถ้าของนั้นเค้ารู้สึกว่าแพงไป
ผมมีคอมมิชชั่นของยอดขายให้ด้วย
แมวต้องพกโทรศัพท์อยู่เสมอ หากผมติดต่อไปไม่ทางไลน์หรือโทรต้องติดต่อได้ตลอดเวลา อันนี้เป็นกฏเหล็กของร้าน
เพราะธุรกิจขายของออนไลน์ต้องมีการเช็คสต็อกสินค้า และมีออเดอร์ที่จะแจ้งให้ส่ง หรือแจ้งลูกค้าเข้า ร้านคือ การติดต่อค่อนข้างสำคัญมากๆในธุรกิจนี้
งานของที่ร้านก็ไม่ได้ต้องใช้สกิลอะไรมากมาย
แต่เราต้องเตรียมระบบ เตรียมความพร้อม เตรียมข้อมูล ไว้คอยซัพพอร์ตเค้าเราทำงานง่าย
เราอาจจะไม่ได้ดูที่หน้าร้าน นั่งอยู่ที่ร้านตลอดเวลา แต่การซัพพอร์ตต้องให้เค้าอย่างเต็มที่
ในช่วงแรกของการรับพนักงานมาทำงาน ผมบอกเลยว่าผมใช้นโยบายใจดีมากๆ
ผมพยายามให้อินเทนซีพ ให้รายได้กับพนักงานให้เค้ารู้สึกว่าคุ้มค่าในการทำงาน
เวลาทำงานส่วนใหญ่ผมให้อิสระมากๆในการทำงาน ในการตัดสินใจ คือถ้าเป็นช่วงเวลาที่ว่าง ผมให้เค้าทำอะไรก็ได้ จะเล่นเน็ต ดูหนัง ฟังเพลงได้หมด
แต่ขอให้ในช่วงเวลาที่ต้องทำหน้าที่ ต้องทำโดยไว มีวินัย
แม้ว่าเราจะปล่อยให้เค้าทำตามใจชอบ แต่ผมจะคอยมาตรวจสอบดูอยู่เรื่อยๆ
คือถึงเราไม่เห็นเค้าทำงานตลอด(ผมเองก็ไม่ได้ติดกล้องวงจรปิดนะครับ)
แต่สต็อกสินค้า จำนวนเงิน มาสุ่มเช็คตามช่วงเวลาที่แตกต่างกัน พูดคุยกับเค้าบ่อยๆ มาเช็คในตอนที่ร้านปิด
เราก็พอที่จะเข้าใจในเรื่องบางเรื่องได้ครับ
เช่น จำนวนเงินทอน จำนวนสต็อก จำนวนยอดขายตรงกับที่เค้ารายงานมั้ย
สมุดบันทึกยอดเงิน มีรายการเคลื่อนไหวยังไง
หากผิดพลาด คำพูดของเค้าเมกเซ้นมั้ย หรือว่า แค่โกหกไปเรื่อย
**คำแนะนำนะครับ ถ้าเริ่มรู้สึกว่าเค้าโกหกแล้ว อย่าเอาไว้ครับ เปลี่ยนเลยดีกว่า
ในช่วงนั้นยอมรับนะครับ ว่าเพราะไม่เคยจ้างคนมาก่อน พึ่งจะเคยมีลูกน้องครั้งแรก
ผมจะปกครองเค้าเหมือนเพื่อนคนนึงเลย
ทำทุกอย่าง อย่างมีเหตุผล แทบไม่เคยตำหนิอะไรเลย
พูดคุยอย่างเป็นเพื่อนกันที่จริงใจจริงๆ
ในใจเกรงใจเค้ามากๆด้วย เหมือนเค้าทำงานให้เราด้วยค่าแรงที่ไม่ได้มากอะไร ยอมเสียเวลาทั้งวันมาทำงานให้
ถ้าจะต้องตำหนิ ดุด่า ว่ากล่าวผมไม่กล้าเลย
และง้ออยากให้แมวทำงานที่นี่นานๆด้วย
เรียกว่าผมเป็นายจ้างที่ใจดีมากๆคนนึงเลยครับ
ถ้าจะไล่ใครออกนี้ไม่กล้าเลย มีแต่คิดวิธีอยากให้เค้าทำงานกับเราให้นานที่สุด
คือง้อเต็มที่อ่ะครับ
ผลคือได้แมวมาทำงานเกือบ 2 ปี
ด้วยเหตุผลส่วนตัวทางครอบครัว เจ้าตัวก็ไม่ได้อยากไปนะครับ อยากจะทำกับผมต่อ
EP นี้เล่าให้ฟังประมาณนี้แล้วกันครับ แต่ยังไม่ได้เล่าเลยว่า ผมเจอปัญหาลูกจ้างอะไรบ้าง และแนวทางแก้ไข
EPหน้ามาต่อแล้วกันครับ ขออภัยที่ยืดเยื้อครับ แต่เห็นบทนี้เริ่มยาวมากเลยขอตัดจบก่อนแล้วกันครับ
อ่านต่อบทหน้าที่ลิ้งนี้เลยครับ
https://www.toytorich.com/b/172
ติดต่อ 084-919-5600,098-424-7672 Email: toytorich@gmail.com
Facebook : www.facebook.com/toytorich Line : @toytorich