มีอยู่ครั้งนึงที่ผมไปแถวๆสถานีวงเวียนใหญ่แล้วปวดท้องถ่ายหนักมากอยากเข้าห้องน้ำแบบเร่งด่วน เรียกว่าถ้าไม่มีใครดูผมปล่อยตรงนั้นได้เลย ผมจึงเดินไปหาร้านหรือที่ไหนก็ได้เพื่อจะขอเข้าห้องน้ำ ไปเจอร้านอาหารแห่งนึง เหมือนๆจะมีประตูเล็กๆที่เหมือนๆกับห้องน้ำ แต่หน้าประตูห้องมีป้ายกระดาษเขียนว่า “ห้องเก็บของ” แต่ผมเห็นประตูแง้มๆเลยเปิดเข้าไปดูปรากฏว่าเป็นห้องน้ำ เลยไปขอลูกชายเจ้าของร้านเข้า ลูกชายเจ้าของร้านลังเล แต่เห็นผมแสดงท่าทางปวดจริงๆเลยตัดใจยอมให้เข้า
ในระหว่างที่ผมปฏิบัติภารกิจอยู่ผมได้ยินเสียง อาม่าคนนึงตะโกนว่า
“ให้เค้าเข้าไปทำไม อุตส่าเอาป้ายติดไว้ยังไปบอกเค้าทำไมว่ามีห้องน้ำ ก็บอกเค้าไปว่าไม่มี“
ลูกชายก็ตอบว่า “เค้าเดินเข้ามาเปิดดูเอง ไม่ได้บอก”
อาม่าตะโกนต่อด้วยความไม่พอใจ “ตอนออกมาเก็บตังมันด้วยล่ะ ไม่งั้นก็มาเข้ากันทั่วบ้านทั่วเมืองกันพอดี”
พอผมทำธุระเสร็จเดินออกมาก็เจออาม่าทำหน้าตาอั้นอึเหมือนกับปวดหนักกว่าผมอีก
อาม่าพูดว่า ”5บาท” สั้นๆง่ายๆแต่แฝงไว้ด้วยท่าทางเหมือนคนคุมบ่อนเฮียสอสามย่าน ดวงตาส่งสายตาบอกผมว่า ไม่จ่ายกูเอามึงตาย
ผมก็หยิบเงินให้อย่างว่าง่ายไม่คิดบิวพริ้วแต่อย่างใด แต่ไม่มีการกล่าวคำขอบคุณแล้วก็เดินจากออกมาจากร้านพร้อมกับคำถาม
“ทำไมต้องงกห้องน้ำขนาดนั้น ทำความสะอาดก็ต้องทำอยู่แล้วทุกวันไม่ใช่เหรอ เขียนป้ายไว้ก็ได้ว่าไม่ใช่ลูกค้าที่ร้านเก็บ 5บาท ไม่จำเป็นต้องมาขมขู่เหมือนกลุ่มก่อการร้ายภาคใต้แบบนั้น ผมลำบากจริงๆจึงต้องมาขอเข้าไม่ใช่ทนได้ถึงบ้านแล้ว เห็นส้วมเจ๊น่าเข้า แล้วทนไม่ไหวนะครับ ถ้าผมไม่เข้าห้องน้ำร้านเจ๊ผมอาจจะขี้หน้าร้านเจ๊ได้นะครับ แต่จะเพราะอะไรก็ตามผมรู้สึกไม่ดีมากๆ เหมือนคนงานต่างด้าวหนีเข้าเมือง เจ้าของร้านไม่มีน้ำใจแบบนี้ยังไงต่อไปผมไม่มากินร้านเจ๊แน่นอนครับ”
และอีกเรื่องนึงทีเกี่ยวกับห้องน้ำ
มีอยู่ครั้งนึงผมไปหาซื้อโต๊ะเรียนหนังสือแถวๆห้วยขวางเดินเข้าไปร้านนึง เป็นร้านตึกแถวเจ้าของร้านก็เป็นเจ๊จีนๆวัยสี่สิบกว่า ผมแจ้งกับลูกจ้างว่า”หาโต๊ะเรียนหนังสืออยู่” ลูกจ้างวิ่งไปแจ้งเจ้าของร้านระหว่างนั้นผมรออยู่ ผมก็ปวดถ่ายเบามาก ไหนๆก็รอว่างๆก็ขอเข้าห้องน้ำสักหน่อยแล้วกัน
ผมทำธุระเสร็จก็ออกมาเจอเจ๊ยืนรออยุ่ ผมก็แจ้งความจำนงไปเจ๊พาผมขึ้นไปดูของ
ระหว่างผมดูของผมไม่สามารถเห็นของได้อย่างชัดเจนเนืองจากเจ๊วางโต๊ะเรียนหนังสือแบบซ้อนกัน ทำให้ผมมองได้ไม่ชัด กะระยะใช้งานไม่ถูก ผมถามว่า”ถ้าเป็นไปได้อยากให้ยกออกมาแล้วดู”
เจ๊ถามผมกลับ”ซื้อแน่ใช่มั้ย ถ้าซื้อก็จะยกลงมา”
ผมบอกว่า “ผมต้องดูของก่อนแต่วันนี้ผมตั้งใจมาซื้อโต๊ะแน่นอน ไม่ใช่แค่มาดูอย่างเดียว หากเห็นของไม่ชัด หรือพอดูแล้วมันไม่ได้ตามที่ต้องการผมก็อาจจะไม่ซื้อ”
เจ๊ถามเช็คความมั่นใจ” แต่วันนี้มีความตั้งใจแน่ใช่มั้ย”
ผมบอกว่า “มีครับ
เจ๊เรียกเด็กมายกให้ผม ซึ่งถามว่าลำบากมากมั้ยก็ไม่เท่าไหร่ เพราะไม่ใช่โต๊ะที่หนัก หรือใหญ่อะไรมาก และใช้เวลาไม่ถึง 20 นาที
พอผมดูผมพิจารณาแล้วเห็นว่าโต๊ะมันค่อนข้างเตี้ยไปหน่อยเลยถามหาเสปคอื่น
เจ๊บอกว่า”เนี่ย ไซส์ มาตรฐานแล้ว และแบบอื่นก็ไม่มี”
ผมบอกว่า”แต่ผมว่ามันยังเตี้ยไปจริงๆนะครับ”
เจ๊บอกว่า”มันไม่มีหรอกสูงกว่านี้ อันนี้แหล่ะเดี๋ยวลดให้พิเศษ”
ผมบอกว่า”มันยังไม่ใช่น่ะครับ ถ้ายังไงขอบคุณมากครับไว้จะมาดูอีกครั้ง”
แล้วผมก็เดินจากมา
เจ๊เรียกผม “ค่าเข้าห้องน้ำ 5บาท จ่ายมาด้วย แหม๋ไอ้พวกชอบมาฟอร์มเข้าห้องน้ำแล้วไม่ซื้อของ มาทำฟอร์มถามโน้นนี่ แล้วก็ไม่ซื้อ”
ผมบอกว่า”ผมต้องการซื้อจริงๆ ไม่ได้มาฟอร์มเข้าห้องน้ำ แต่ถ้าจะเก็บผมก็จะจ่าย”
ผมก็จ่ายไปแล้วก็เดินจากร้านนั้นมาพร้อมกับปฏิญาณตนว่า
“เจ๊มาว่าผมและแสดงความแร้งน้ำใจขนาดนี้ อย่าหวังจะให้ผมเข้าร้านเจ๊อีกเลยในชาตินี้ “
แล้วผมก็เดินหาซื้อโต๊ะต่อเพราะแถวนั้นร้านเยอะมาก จนผมหาแล้วก็ผมว่าโต๊ะไซส์นั้นมันมาตรฐานจริงๆก็เลยซื้อแบบตัวที่เจอร้านเจ๊แต่ซื้อที่ร้านข้างๆร้านเจ๊ ซึ่งมีการบริการพูดจาที่ดีกว่าเยอะ
หากเจ๊พูดกับผมดีๆไม่ระแวงผม ไม่เก็บตังค่าห้องน้ำผม ผมอาจจะกลับมาซื้อร้านเจ๊แล้วล่ะครับ
อีกเรื่อนึงครับ
ผมปวดถ่ายหนักระหว่างนั่งรถเมถ์ไปทำงานแล้วทนไม่ไหว ในใจมีสามช้อยคือ
1.นั่งรถต่อไปจนถึงบริษัท
2.ลงมาโบกแท๊กซี่แล้วนั่งไปบริษัท
3.ลงจากรถเมถ์ออกมาหาห้องน้ำแถวนั้น
ผมประเมินดูแล้วช้อยหนึ่งและสองนั้นไม่ไหวจริงๆ เพราะคงไปไม่ถึงบริษัทแน่ๆ
เลยเสี่ยงลงรถเมถ์ในป้ายที่มีร้านค้าเยอะๆแล้วไปขอเข้าห้องน้ำ
ผมเริ่มด้วยการเสี่ยงขอเข้าห้องน้ำร้านข้าวหน้าเป็ดร้านนึงที่ใกล้กับป้ายรถเมถ์ที่สุด
ผมเริ่มด้วยการพูดว่า ”ขอเข้าห้องน้ำหน่อยได้มั้ยครับ ปวดท้องมากไม่ไหวจริงๆ”
เจ้าของร้านยิ้มแล้วบอกว่า “ได้ซิ”
ผมรีบวิ่งเข้าห้องน้ำทำธุระ
เสร็จภารกิจผมเดินออกมาแล้วยื่นเงินให้เจ้าของร้าน 5 บาท
เจ๊เจ้าของร้านบอกว่า”ไม่เป็นไร”
ผมบอกว่า “เอาไปเถอะครับถือว่าเป็นค่าทำความสะอาด”
เจ๊บอกว่า “ไม่เป็นไรจริงๆ”
ผมบอกว่า” ขอบคุณมากครับ”
แล้วก็เดินออกมาจากร้านพร้อมกับความรู้สึกดีๆและปฏิญาณตนว่า
“จะต้องมาอุดหนุนร้านเจ๊ให้ได้ในภายหลัง”
และหลังจากนั้นผมก็เป็นขาประจำร้านเจ๊ แบบว่ามากินให้ได้ทุกครั้งที่มีโอกาส ไม่ใช่เพราะน้ำใจอย่างเดียวนะครับ รสชาติก็ถือว่าใช้ได้ เราเลยมาอุดหนุน
บทเรียน3เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าหากคุณจะทำธุรกิจอย่างกกับเรื่องเล็กน้อยจนทำให้ลูกค้าคุณน้อยใจหรือรู้สึกว่าโดนดูถูก
ในเรื่องห้องน้ำที่จริงแล้ว หากเราไม่อยากให้คนเข้ามั่วซั่วก็ทำป้ายไว้ว่ามีค่าบริการก็ได้ เพราะเข้าใจว่าการทำความสะอาดห้องน้ำมันเหนื่อยและไม่น่าทำ แต่ยังไงๆก็ต้องทำอยู่ทุกวันหากมีคนมาเข้าเพิ่มก็ไม่น่าจะเสียหายอะไรมาก และยังได้เงินเพิ่มจากการเก็บค่าบริการด้วย แต่หากมาอารมณ์เสียด้วยอันนี้ลูกค้าไม่ชอบแน่ๆ
และการที่เราแสดงน้ำใจให้เข้าห้องน้ำมันทำให้ลูกค้ารู้สึกดีว่าเรามีน้ำใจ ในอนาคตก็อยากจะมาอุดหนุนคุณใหม่อีกรอบ แม้ว่าสินค้าของคุณอาจจะไม่ได้ถูกใจลูกค้ามากนัก แต่คนเรามีเรื่องสำนึกชั่วดี การทดแทนบุญคุณอยู่ ยังไงซะหาสร้างบุญคุณให้ได้ ลูกค้าย่อมมาทดแทนบุญคุณแน่ไม่วันใดก็วันนึง
ติดต่อ 084-919-5600,098-424-7672 Email: toytorich@gmail.com
Facebook : www.facebook.com/toytorich Line : @toytorich