เพื่อนและเงิน

เงินเป็นสิ่งสำคัญค่อนข้างมากในการดำเนินชีวิต นอกจากจะสามารถนำไปซื้อสิ่งของได้แล้ว ยังซื้อสิ่งที่เป็นนามธรรมได้หลายอย่าง เช่นอิสระ เวลา ศักศรีดิ์ แสดงออกถึงน้ำใจ ใจคน ความดี ความชอบธรรม ความยุติธรรม แสดงออกถึงเกียรติ
 
ในตอนที่เพื่อนมาขอยืมเงินในเวลาที่ลำบากมันแสดงถึงน้ำใจที่ให้ต่อกัน ซึ่งหลายครั้งการปฏิเสธทำได้ลำบาก แต่การทวงคืนเป็นเรื่องที่ลำบากยิ่งกว่า
 
หากไม่ลำบากมากไป ให้ยืมแล้วคิดว่าให้ไปเลยจะดีกว่า ยอมเสียเงินไปเลย ไม่เสียสุขภาพจิต และยังไม่เสียเพื่อน(แต่ก็เสียน้ำใจกับเพื่อนไปบางส่วนแล้ว) 
 
การให้เพื่อนยืมเงินแล้วมีปัญหาทะเลาะกัน
หลายครั้งประเด็นจะไม่ได้อยู่ที่เงินแล้ว จริงอยู่ว่าตอนแรกเงินคือสาเหตุที่ทำให้เถียงกันด่ากัน บางครั้งคนยืมก็ทำไม่ถูก บางครั้งคนให้ยืมก็ทวงเงินอยากไม่ดี
 
ด่ากันไปถึงระดับนึงเรื่องเงินอาจจะไม่ใช่ประเด็นแล้ว แต่เป็นเรื่องของศักศรีดิ์แทน เพราะลบหลู่กัน ดูถูกกัน สุดท้ายเงินไม่ได้อยากได้เท่าไหร่แต่อยากเอาชนะในสงครามน้ำลายมากกว่า อยากให้อีกฝ่ายยอมแพ้และขอโทษ แต่ก็จะไม่มีฝ่ายไหนยอมจนต้องเลิกคบกันไป

ผมรู้สึกไม่ดีเลยเวลาที่เพื่อนสนิทไม่ค่อยได้คุยกันมานาน แต่พอโทรมาหากันก็มาขอยืมเงิน

ผมเคยมีเคสเสียเพื่อนเพราะเงิน 3 เคส

1. เพื่อนสนิทผมคนนึงที่คบกันมามากกว่า10 ปี โทรมาขอยืมเงินไม่กี่พันบอกมาว่า “บอกว่าลำบากจริงๆ” ผมไม่ให้เพราะตอนนั้นเงินก็ไม่ค่อยมี หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย เค้าไม่โทรมา ผมก็ไม่โทรไป “บทเรียนนี้สอนให้รู้ว่าบางครั้งเพื่อนต้องช่วยเพื่อนในเวลาที่เพื่อนลำบาก เพื่อไม่ให้เสียเพื่อน”
2. เพื่อนผมคนึงใช้ผมทำงานให้พองานเสร็จมันหายตัว โทรไปติดต่อไม่ได้ทั้งๆที่เป็นเงินแค่หลักพัน บทเรียนนี้สอนให้ผมรู้ว่าบางคนที่ไม่ได้ขัดสนเรื่องเงิน มีเงินที่จะจ่ายเราแต่ถ้าเค้าไม่ใช่คนที่ซื่อสัตย์เค้าก็ไม่จ่ายเงินเราได้
3. มีเพื่อนผมอีกคนนึงที่ซี้กันมาก สนิทแบบว่าคิดว่าเป็นเพื่อนตาย กำลังทุ่มเททำธุรกิจอย่างเอาเป็นเอาตาย มาขอยืมเงิน2 หมื่นบาท สัญญาว่าจะคืนปลายเดือน ตอนนี้จะสองเดือนแล้วมันยังเงียบ โทรไปไม่ค่อยรับ ผลัดผ่อนมาตลอด และทุกครั้ง เราต้องเป็นฝ่ายโทรไปทวง แม้ว่าอาจจะไม่ได้เงินคืน แต่ผมก็ไม่เสียใจเพราะการช่วยเหลือเพื่อนคนสำคัญที่สุดของเรานั้นเป็นสิ่งที่จำเป็น เราช่วยแล้วเราไม่ได้ลำบากแบบจะเป็นจะตาย แต่บทเรียนนี้สอนให้ผมรู้ว่า คนเราเปลี่ยนกันได้หากถึงเวลาที่อยู่ในสถานการณ์คับขันอย่างสุดๆแบบไม่มีทางถอยและเค้าเดิมพันกับโอกาสสำคัญมากๆในชีวิต ในสถานการณ์ที่เพื่อนคุณเดิมพันแบบนี้การให้เงินเพื่อนคุณยืมเป็นเรื่องที่เสี่ยงมาก

เงินเป็นสิ่งสำคัญก็จริงแต่ผมว่ามิตรภาพที่มีให้ต่อกันสำคัญกว่าไม่คุ้มที่จะเอามาแลกกับเงินเพียงแค่ไม่กี่หมื่น เพราะความสัมพันธ์มีค่ามากกว่านั้น ในอนาคตเพื่อนคุณทำเงินให้คุณได้มากกว่านั้นและมีมูลค่าทางใจที่ใช้เงินซื้อไม่ได้และชื่อเสียงในสังคมตรงนั้นคงคุณจะเสียมันไม่ได้เสียแค่กับคนที่ให้ยืมอย่างเดียว สังคมตอนนี้เชื่อมต่อกันอย่างเร็วมากแล้วทำอะไรรู้กันในกลุ่มรู้กันถึงนอกกลุ่ม

คนที่เป็นฝ่ายให้ก็เหมือนกันบางครั้งหากเรางกจนเกินไปก็ไม่ถูก เพราะพอคุณรวยไปถึงระดับนึงแล้วคุณจะรู้ว่าเงินนั้นไม่ได้สร้างความสุขให้จิตใจคุณได้อย่างสมบูรณ์ ในหลายๆครั้งคุณจะคิดว่าหากมีโอกาสก็พร้อมยอมสละเงินเพื่อซื้อมิตรภาพ และเงินที่ไม่มากเกินไปจะแสดงความมีน้ำใจของคุณมันก็คุ้มค่าที่จะยอมเสียไป ในระหว่างที่ยังไม่รวยยอมเสียเงินบ้างเพื่อรักษามิตรภาพดูก็เป็นเรื่องที่ควรทำ จริงอยู่ว่ามิตรภาพไม่ควรจะยึดติดกับเงิน แต่หลายครั้งชีวิตมันหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเกี่ยวข้องกับปัญหาของเงินและหลายๆปัญหาเงินสามารถแก้ไขได้

สำหรับคนที่ให้เงินเพื่อนยืมไปแล้วไม่ได้คืน ก็ให้ถือว่าเป็นการลงทุนอย่างนึง คือเพื่อดูจิตใจของเพื่อนคุณแม้ว่าเค้าจะนิสัยดีแค่ไหนในเรื่องอื่น แต่ถ้าเรื่องเงินไม่ซื่อสัตย์เค้าก็ไม่ใช่คนดีอะไรที่คุณควรจะเป็นสนิทเป็นเพื่อนตายกัน คิดซะว่าเงินเพียงเล็กน้อยสามารถรู้ถึงจิตใจก็เพื่อนคุณได้มันก็นับว่าคุ้มค่ามากนัก ให้รู้ไว้เลยว่าเพื่อนที่เบี้ยวเงินคุณอยู่นั้นกำลังเอาเปรียบคุณอยู่ สมควรที่จะต้องเลิกคบกันไป ถึงจะได้รับเงินคืนมาในเวลาต่อมา แต่ก็ไม่ควรจะสนิทชิดเชื้ออะไรมาก เพราะคนไม่รักษาสัญญาสุดท้ายแล้วคุณคบด้วยก็จะมีปัญหาอย่างอื่นตามมาอีก

อาจจะมีหลายคนที่มองว่าคนดีแต่นิสัยเสียแค่เรื่องเงิน แต่พอเรื่องอย่างอื่นดีหมด บางทีลำบากเรื่องเงินจริงๆจนต้องทำอย่างนี้ ตัดสินใจเบี้ยวเงิน

แต่ผมมองว่า ถ้าเค้าเรื่องอื่นดีหมด แต่อย่างน้อยเค้าก็ไม่ดีเรื่องนึง คือความซื่อสัตย์ครับ สัญญาว่ายังไงยังไม่รักษาสัญญา คนที่ไม่รักษาสัญญาในเรื่องเงิน ในเรื่องอื่นๆก็ต้องมีบ้างแหล่ะที่จะไม่รักษา และหากเพื่อนคุณมาไม่รักษาสัญญาในเรื่องใหญ่ๆเมื่อไหร่ หายนะก็จะเกิดกับคุณ ผมว่าเรื่องเงินก็ถือว่าเป็นนิสัยอย่างนึงของคนที่เชื่อมไปถึงกับนิสัยในเรื่องอื่นๆด้วย หลายครั้งที่การให้ยืมเงินไม่ใช่ปัญหาใหญ่หรอก แต่ที่ต้องโมโหมากเพราะสัญญาแล้วไม่รักษา คุณบอก 5วัน จะคืนแต่พอ 5วันแล้วบอกอีก ขออีก 5 วัน พอถึงกำหนด 5วัน ก็บอกอีกขออีก 5 วัน  ถ้าคุณบอกตั้งแต่แรกว่า 15วันตั้งแต่แรกก็จะไม่โกรธเลย

หลายคนมองว่าความสัมพันธ์ฉันเพื่อนไม่ควรมีเรื่องเงินมาเกี่ยวเพราะจะทำให้แตกร้าว แต่ผมมองว่าโลกนี้เงินมันเกี่ยวทุกเรื่องครับ การจะคบกันโดยแยกเรื่องเงินทำไม่ได้ครับ เพราะฉะนั้นหากใครที่นิสัยเสียเรื่องเงินเราก็ไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวให้มาก จะแยกคบแบบเงินก็เงิน เที่ยวก็เที่ยวนั้นทำไม่ได้หรอกครับ เพราะตอนไปเที่ยวก็ต้องใช้เงิน หากโดนเอาเปรียบอีกก็เที่ยวไม่สนุก หากมีเพื่อนที่ชอบเอาเปรียบเรื่องเงินก็ไม่ควรคบเป็นเพื่อน คบเป็นคนรู้จักไว้ก็พอ โลกสมัยยากครับที่จะแยกเรื่องเงินออกจากความสัมพันธ์

มีคนเคยบอกว่าอย่าให้เงินเพื่อนยืมเพราะจะเสียเพื่อน แต่ผมกลับมองว่า เป็นโอกาสดีเลยที่คุณจะแสดงความมีน้ำใจและได้เห็นจิตใจของเพื่อนคุณ หากเราพอมีบ้างให้ยืมซะก็ไม่เป็นไร หากเป็นเพื่อนซี้คุณจริงๆ ถือว่าเป็นบททดสอบมิตรภาพของเพื่อนซี้หากได้คืนคุณก็ได้ทั้งน้ำใจและความมั่นใจว่าเพื่อนคุณเป็นคนที่เชื่อถือได้จริงๆและควรที่จะรักษาเพื่อนแบบนี้ไว้ให้นานๆ แต่หากไม่ได้คืนคุณก็จะได้เห็นถึงจิตใจ ความซื่อสัตย์และความจริงใจของเพื่อนคุณ หากคุณไม่ให้เงินเพื่อนคุณยืมในตอนที่เค้าลำบากจริงๆคุณก็จะเสียโอกาสที่จะทดสอบเพื่อนคุณ

แต่หากไม่ใช่เพื่อนซี้คุณก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะให้เค้ายืม แม้ว่าเค้าจะเลิกคบเพราะไม่ให้ยืมก็ไม่เป็นไรเพราะเค้าไม่ใช่คนสำคัญอะไรมากสำหรับคุณ แต่หากคุณอยากแสดงน้ำใจเพื่อเพิ่มเพื่อนก็ควรลดยอดเงินไปตามสถานะของคุณ เพื่อลดความเสียหายจากความเสี่ยง