ระบบที่ต้องรองรับความต้องการของคนหมู่มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งไม่ครอบคลุมความต้องการเท่านั้น
ระบบราชการ คือระบบที่ต้องรองรับความต้องการของคนจำนวนมาก ยิ่งเพราะเป็นคนจำนวนมากก็ยิ่งทำให้มีช่องโหว่ที่ไม่สามารถรองรับได้ทั้งหมดมากเท่านั้น
ตลาดยิ่งใหญ่เท่าไหร่ก็ยิ่งมีช่องว่างของตลาดมากเท่านั้น ช่องว่างนี้คือโอกาสของบริษัทเล็กที่มีความคล่องตัวและยืดหยุ่นสามารถเข้ามาสร้างรายได้
แม้ว่าจะเลือกกลุ่มเป้าหมายที่มีจำนวนเยอะที่สุด แต่หากทรัพยากรไม่เพียงพอก็ไม่สามารถตอบสนองออเดอร์ได้อย่างดีพอเช่น การขายอาหารตามสั่ง หากทำคนเดียว ด้วยกระทะอันเดียวย่อมไม่สามารถรองรับออเดอร์100ออเดอร์ได้ทันภายใน1ชม.
การขยายทรัพยากรเพื่อรองรับตลาดให้ได้มากขึ้นจึงเป็นสิ่งจำเป็น
ทรัพยากรเป็นเหมือนเครื่องมือขุดเงิน เช่น เครื่องจักรที่ใช้ในการผลิต รถขนส่ง ร้านค้าที่วางสินค้า สินค้า ผู้ขายหรือผู้ให้บริการ ผู้อธิบายสินค้า และอื่นๆที่มีศักยภาพที่ใช้ช่วยในการขาย
หากเครื่องมือมีน้อยแม้จะมีออเดอร์จากลูกค้ามาก ก็รองรับได้ไม่ทัน
องกรค์ยิ่งใหญ่เท่าไหร่มักยิ่งมองข้ามความต้องการของคนกลุ่มน้อย นี่คือโอกาสของเหล่าผู้ประกอบการรายเล็กที่จะเข้ามาทำรายได้ในพื้นที่นี้ได้ เม็ดเงินที่ไม่มากสำหรับองกรค์ใหญ่อาจจะถือว่าเป็นเม็ดเงินที่มากเหลือเฟือสำหรับขนาดองกรค์เล็ก
หากยังเป็นองกรค์เล็กๆ ได้อยู่ปลาใหญ่ในบ่อเล็กย่อมดีกว่าเป็นปลาเล็กในบ่อใหญ่
ในตลาดใหญ่มูลค่า10000ล้าน บริษัทเล็กมีเงินทุนแสนนึงจะหวังโกยกำไรสัก 1000ล้านคงเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ แต่ในตลาดเล็กมูลค่า 10ล้าน หวังจะโกยกำไรสัก1ล้านก็อาจจะทำได้
โดยกฏธรรมชาติบริษัทใหญ่ย่อมได้เปรียบบริษัทที่เล็ก ทั้งในด้านเงินลงทุน บุคลากร การหานักลงทุน การกู้ยืมเงินลงทุน เครดิตในการทำธุรกิจ ยืดการชำระเงินได้ มีส่วนลดในการซื้อสินค้าและอื่นๆ
แต่บริษัทที่เล็กก็มีข้อได้เปรียบบริษัทใหญ่อยู่เหมือนกัน เช่น การทำงานที่คล่องตัว การควบคุมที่ทั่วถึง การสื่อสารที่คล่องตัว การตัดสินใจที่ฉับไว การให้ความสำคัญกับลูกค้ารายเล็ก
ยกตัวอย่างง่ายๆ เวลาคุณไปซื้อสินค้ากับบริษัทเล็ก แม้จะซื้อของไม่มากผู้ขายที่เป็นบริษัทเล็กจะให้ความสำคัญกับคุณ เพราะสำหรับเค้าแล้วยังไม่มีฐานลูกค้าที่มากนัก แม้จะเป็นลูกค้าเล็กๆก็ต้องรักษาไว้ก่อน
ในบริษัทที่เล็กจะยังไม่มีกฏระเบียบอะไรมากมาย การต่อรองที่ผิดไปจากการซื้อขายปกติจะทำได้ง่ายกว่า และอาจจะไม่ต้องซื้อสินค้าเป็นจำนวนมากมายอะไร ในขณะที่การต่อรองแบบนี้ในบริษัทใหญ่แทบจะทำไม่ได้เลย เพราะมีระบบที่บังคับไว้อยู่แล้ว หากจะต่อรองนอกระบบต้องคุยกับผู้บริหารใหญ่ๆเท่านั้น กฏระเบียบที่ชัดเจนของบริษัทใหญ่นี่แหล่ะที่ทำให้การค้าขายไม่ยืดหยุ่น ไม่สามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าได้ครบทุกส่วน
ลักษณะแบบนี้เกิดขึ้นเสมอเมื่อกลายเป็นองกรค์ใหญ่เมื่อไหร่ ความคล่องตัวก็จะน้อยลงเสมอ
บริษัทเล็กสามารถเลือกเจาะกลุ่มลูกค้าส่วนน้อยได้ ซึ่งบริษัทขนาดใหญ่จะไม่ทำเพราะผลตอบแทนจะไม่คุ้มค่าต่อบริษัท แม้จะกินส่วนแบ่งตลาดลูกค้าส่วนน้อยได้หมด แต่กำไรที่ได้มาก็น้อยนิดเกินกว่าจะหล่อเลี้ยงองกรค์ ไม่คุ้มค่ากับต้นทุนการประกอบการ
ผู้บริหารของบริษัทที่เล็กสามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าผู้บริหารของบริษัทใหญ่
เซลล์ของบริษัทเล็กเข้าถึงลูกค้าเซลของบริษัทใหญ่จะมีการแบ่งเขตการขายและจะไม่ค่อยให้บริการที่ดีเท่าไหร่หาก
คำตำหนิติเตียนต่างๆของลูกค้าไปถึงผู้บริหารของบริษัทเล็กได้เร็วกว่า
ติดต่อ 084-919-5600,098-424-7672 Email: toytorich@gmail.com
Facebook : www.facebook.com/toytorich Line : @toytorich