จดทะเบียนพานิชย์อเล็กทรอนิคส์

พูดถึงไปทำธุรกรรมกับทางราชการ ผมจะรู้สีกงานเข้าทุกที เพราะการทำธุรกรรมจะช้าและชอบมีอะไรเซอไพรซ์ ทำให้เราต้องไปอีกรอบ เช่น เอกสารไม่ครบทั้งที่เตรียมตามรายการในเวปครบแล้ว วันนี้คนรับผิดชอบไม่มาพอดี ระบบคอมพิวเตอร์เสียมาใหม่พรุ่งนี้นะคะ

สำหรับคนที่ทำงานประจำถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มากเวลาที่ลางานทำธุระราชการแล้วทำไม่เสร็จต้องมาใหม่อีกวันรุ่งขึ้นหลายๆครั้งแค่ลางานทุกเดือนๆละครั้งเจ้านายก็มองหน้าแล้ว จะให้ลามาอีกวันรุ่งขึ้นถือว่าเรื่องใหญ่เลย

วันนี้ได้ไปจดทะเบียนพานิชย์อิเล็กทรอนิคส์มา

ปกติถ้าจ้างเค้าทำจะเสียประมาณ2000บาท

ผมเริ่มเตรียมตั้งแต่ตอน 9โมงเสร็จแล้วไปถึงเขตประมาณ 11.30น ปรากฏว่าเสร็จเรื่องตอน 12.20น

ผมใช้เวลาเคลียไม่เกิน3 ช.ม. เกือบครึ่งเสร็จเรื่อง(มีคิวก่อนหน้า 1คน)

ถือว่าค่าใช้จ่าย 2000 บาทไม่ค่อยคุ้มกับผมเพราะผมยังหาเงิน 2000 บาทไม่ได้ใน 3 ชม.ครึ่ง

มีป้าอยู่คนนึงที่ทำช่องชำระเงิน อายุประมาณ 50 กว่าๆ

ป้าแกนั่งหลับขณะทำงาน พอไปถึงแกก็ทำหน้างงๆ

ผมยื่นเอกสารให้แก แกหยิบมาดูและพิมชื่อผม พร้อมกับถามว่านามสกุลอะไรนะ

วิธีการพิมพ์ของแกต้องพิมพ์ที่ละนิ้วและมอง พอพิมชื่อเสร็จแก็เรียกจ่ายเงิน 50 บาท

ผมยื่นแบ็งร้อยให้ แกบอกมี 50 บาทมั้ย

ผมลองค้นดูอีก ผมบอกว่าไม่มีครับ

แกก็ถามอีกว่า ไม่มี50 บาทเหรอ

ผมก็ลองดูในกระเป๋าเอกสาร ก็ไม่มีก็เลยบอกแกไปว่า

“ไม่มีเงินทอนเหรอครับ”

แกก็นิ่งแล้วถามกลับมาอีก ไม่มีเศษพอดีๆเหรอ

ผมก็บอกว่า “ไม่มีครับ ป้าไม่มีเงินทอนเหรอ”

ป้าแกจึงเอิ้อมไปเปิดแกะแล้วหยิบเงินเป็นฟ่อนที่มีแบ็งยี่สิบ ห้าสิบ แบ็งร้อย แบ็งพัน จัดเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบ (คือมีครบทุกแบ็งอ่ะ)

และหยิบแบ็งยี่สิบออกมาจากกอง สองใบ และหยิบเศษตังนับให้ได้ 10 บาท พอนับเสร็จ ก็เก็บกลับไปไว้ที่เดิม แล้วหยิบแบ็งห้าสิบออกมา

แล้วเก็บแบ็งร้อยของผมเข้าไปในกอง โดยให้อยู่ในตำแหน่งที่เรียงกันตามลำดับค่าเงินของกอง (แบ็งยี่สิบ แบ็งห้าสิบ แบ็งร้อย)

แล้วยื่นแบ็งห้าสิบมาให้ผม

ผมสัณนิษฐานว่าที่ป้าแกนิ่งอาจจะเป็นเพราะ

1. แกรอให้มีคนช่วยเหลือค่าข้าวอยู่
2. แกทำการเก็บแบ็งไว้อย่างเป็นระเบียบแล้วไม่อยากจะรื้อออกมาให้วุ่นวาย
3. แกมึนขี้เกียจทอน เพราะเมื่อก่อนเคยทอนผิด แล้วโดนด่ามาแล้ว

แล้วก็ปริ๊นใบเสร็จ ตรวจสอบข้อมูล เสร็จชื่อตัวเค้าและยื่นให้ผม

โปรเซสการทำงานทั้งหมดของป้าคือ

พิมพ์ชื่อเข้าคอมพิวเตอร์ ⇒รับเงิน ทอนเงิน ⇒ปริ๊นใบเสร็จ ⇒ตรวจสอบรายละเอียดใบเสร็จ ⇒เซ็นชื่อ ⇒ยื่นให้ผม

ทั้งหมดนี้ที่จริงใช้เวลาอย่างเร็วจะไม่เกิน 30 วินาที หากเป็นการบริการลูกค้าผมว่าไม่ควรเกิน1นาที แต่ป้าแกช่วยจัดให้ผมไป 4 นาที

ถ้าวันนึงมีคนมาใช้บริการ 100 คน ป้าจะใช้เวลา 400 นาที ในขณะที่หากเป็นคนธรรมดาทำก็จะใช้เวลาแค่ 100 นาที ต่างกัน 5 ชม. ต่างกันหลายเท่าตัวนัก

ในหน้าที่การบริการที่ไม่ยาก ไม่ซับซ้อนผมว่าเปลี่ยนเป็นคนหนุ่มสาวที่ไม่มีความรู้อะไรมากมาให้ทำก็น่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้องค์กรมากกว่า แล้วให้ป้าไปทำงานที่ไม่ต้องใช้ความเร็ว แต่อาจจะต้องใช้ความละเอียดแทน

ผมประทับใจเจ้าพนักงานที่ทำเรื่องจดทะเบียนพานิชย์อิเล็กทรอนิคส์ให้ผมมาก เพราะตอนที่ผมไปนั้นจะปิดพักเที่ยงแล้ว เค้าบอกว่าพอเที่ยงแล้วก็จะไปพักกินข้าว ผมบอกว่าช่วยดูให้หน่อยได้มั้ยครับ พี่เจ้าพนักงานก็ดูให้แล้วเห็นว่าไม่น่าใช้เวลามากเพราะเอกสารครบก็เลยยอมเดินเรื่องให้จนเสร็จ (ซึ่งใช้เวลาทั้งหมดไม่เกิน 15 นาที รวมเวลาจ่ายเงินของป้าแล้ว 4นาที)

พี่เจ้าพนักงานยอมทำงานให้โดยกินเวลาทานข้าวของเค้าไป ผมรู้สึกเป็นปลื้มมาก เลยจัดคะแนนแบบสอบถามความพอใจในการทำงานให้เต็มทุกข้อ

ในส่วนข้อเสนอแนะผมเขียนไปว่า”ขอให้เปิดบริการในช่วงพักกินข้าวเที่ยงด้วย โดยให้มีการสลับกันไปพัก”

ผมคิดว่าถึงพี่เจ้าพนักงานจะทุ่มเทให้ แต่สุดท้ายแล้วมันก็ไม่ดีต่อสุขภาพเค้า แล้วยิ่งไปกว่านั้น หากเค้าไปพักกินข้าวตอนบ่ายโมง คนที่มาทำธุรกรรมตอนบ่ายก็ต้องรอไปอีกอยู่ดี สุดท้ายก็ไม่ต่างกัน

พนักงานควรจะได้พักและกินข้าวตามเวลาที่เหมาะสม เพื่อศักยภาพในการทำงานที่ดี หากมาฝืนแล้วมีผลเสียในเวลาต่อมาก็ไม่มีประโยชน์ ดังนั้นควรมีคนเปลี่ยนกะมาทำแทน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาขององค์กร