ผมมีความเชื่อว่า การขอร้องอะไรกับใครสักอย่างโอกาสจะสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับที่เครดิตของเรา เครดิตที่ว่านี้จะเพิ่มขึ้นเมื่อเราช่วยเหลือคนๆนั้น และลดลงเมื่อเราเป็นฝ่ายรบกวน
เครดิตนี้ก็ไม่ต่างกับบุญคุณหรือบารมี แต่การรบกวนก็มีอยู่หลายระดับ หากเป็นการรบกวนที่อีกฝ่ายนึงก็ได้รับการตอบแทนจากทางเรา(+,+) ย่อมไม่ส่งผลให้เครดิตลดลง
และหากการรบกวนนั้นฝ่ายตรงข้ามนั้นไม่ได้ลำบากอะไร( +,0)เครดิตอาจจะลดแต่ก็ไม่มาก เท่ากับกรณีที่เราได้ประโยขน์แต่ต้องลำบากฝ่ายตรงข้าม(+,-) แน่นอนว่าผลประโยชน์ที่ได้มาด้วยความสัมพันธ์แบบนี้ย่อมไม่ยั่งยืนเพราะฝ่ายตรงข้ามคงไม่ทำให้เราตลอดแน่ๆ การขอร้องโดยให้ฝ่ายตรงข้ามลำบากใจที่จะทำนานวันเข้าเมื่อเครดิตหมด เค้าก็จะเลิกทำ
ซี่งถึงจุดนี้การขอร้องจะใช้ไม่ได้ผล และหลายๆคนหาทางออกด้วยการบังคับ ซึ่งจะทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่สามารถเป็นมิตรกันได้ และความขัดแย้งจะเกิดขึ้นแน่นอนไม่ช้าก็เร็ว
ทางออกอีกทางคือ การเจรจา หาเงื่อนไขที่ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่ายกันใหม่ซึ่งเป็นวิธีที่ดีกว่าหากจะทำธุรกิจหรือคบกันเป็นเพื่อนกันไปอีกนานๆ ใครก็ตามที่ขอร้องคนอื่นมาตลอดนานเข้าๆจนเครดิตหมดไปความช่วยเหลือก็จะหมดไปด้วย
มีอยู่ครั้งนึงครับ บริษัทของผมออกใบเก็บเงินผิดไป 6 บาท ฝ่ายบัญชีมาถามผมว่าจะให้แก้ไหม ผมบอกไม่ต้องครับเนื่องจาก
1. การจะไปขอแก้กับลูกค้า มันเป็นการรบกวนลูกค้า แม้ว่าเงินจะเล็กน้อยแต่ลูกค้าก็ต้องทำงานเพิ่มขึ้น
2. เงินมันน้อยนิด
3. ทางเราเป็นฝ่ายทำผิดเอง
4. ลูกค้าไม่ได้ประโยชน์อะไรกับการทำให้เรา
5. ผมเชื่ออยู่เสมอว่าการขอร้อง ทำให้เครดิตเราลดลง หากต้องลดลงเพราะเรื่องเล็กขนาดนี้ ผมขอเก็บไว้ใช้กับเรื่องใหญ่ๆดีกว่า (จะได้ใช้ประโยคนี้ได้ “ เกิดมาไม่เคยขอร้องอะไรเลยนะ ขอแค่เรื่องนี้เรื่องเดียว”)
คนที่เคยแต่พึ่งพาคนอื่นโดยไม่ให้ประโยชน์กับคนอื่นบ้างไม่มีใครอยากจะคบในระยะยาวหรอกครับ แม้ว่าวันนี้เราจะมีอำนาจมีกำลังสามารถบังคับคนอื่น ขอร้องแบบเอาเปรียบมาตลอด ระยะยาวคุณไม่ได้สิ่งนี้ตลอดไปหรอกครับ เครดิตมันหมดไปทุกๆครั้งที่คุณขอร้อง
คนที่เอาแต่ขอแบบเอาเปรียบคนอื่น เค้าเรียกว่าภาระครับ
ติดต่อ 084-919-5600,098-424-7672 Email: toytorich@gmail.com
Facebook : www.facebook.com/toytorich Line : @toytorich