พนักงานกินเงินเดือนชอบลืมไปว่า เรามีช่วงเวลาที่จำกัดในการทำงาน ไม่ใช่ว่าทำงานได้รับเงินได้จนวันตาย
พออายุถึงสัก60 ปี ก็มีปัญหาเรื่องสังขารแล้ว
อาจจะใช้ชีวิตได้อย่างปกติก็จริง แต่จะมาทำงานหักโหม
เหมือนตอนหนุ่มๆคงจะไม่ได้แล้ว
คนในวัยหนุ่มคิดอยู่เสมอว่าต้องใช้ชิวิตให้คุ้ม
สนุกให้สุดๆ แต่ลืมไปว่าทุกครั้งที่คุ้มและสนุกมันมีต้นทุนอยู่ ทั้งเวลาและเงินและโอกาสที่จะเอาเงินไปลงทุนให้ได้กำไร
เงินที่ได้รับตอนสิ้นเดือนที่ได้มาก็ไม่ค่อยเก็บ
ได้เท่าไหร่จ่ายเท่านั้น หลายคนได้เท่าไหร่ใช้เกินทุกครั้ง
สำหรับผมแล้ว
ผมว่าวัยหนุ่มเป็นวัยที่เหมาะสมกับการเก็บเงินและลงทุนมากที่สุด เพราะส่วนใหญ่ภาระน้อย
ยังไม่มีลูก ไม่มีเมีย พ่อแม่ก็อาจจะมีรายได้อยู่ยังไม่ต้องการเงินเลี้ยงดูมากนัก
บ้านก็ยังอยู่กับพ่อแม่ไม่ต้องผ่อนบ้าน สุขภาพก็ยังแข็งแรงยังไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายในด้านสุขภาพ
และหากลงทุนแล้วพลาดก็มีโอกาสเริ่มต้นใหม่ได้
เพราะยังมีเวลาที่จะสะสมเงินลงทุนขึ้นมาใหม่ และยิ่งถ้าเป็นการลงทุนในหุ้นนั้นยิ่งมีเวลามากเท่าไหร่โอกาสที่จะสำเร็จก็มากเท่านั้น
แม้จะมีข้อเสียคือรายได้ที่ไม่มาก แต่ช่วงเวลานี้แหล่ะที่ควรจะต้องสร้างรายได้ให้ได้มากและเร็วที่สุดเพื่อนำมาออมหรือลงทุน
วิธีการเพิ่มรายได้มีอยู่มากมาย แต่ละอาชีพก็มีแนวทางไม่เหมือนกัน
แต่ถ้าเอาเวลามาพยายามยังไงก็ทำได้
น้องๆหลายคนจบการศึกษามาสูงก็ได้รายได้ที่มากเมื่อเทียบกับคนอื่นที่อายุเท่ากัน
แต่นั้นก็ถือเป็นผลกำไรของความอุตสาหะที่เค้าทำมา ตั้งใจเรียนมา
ผมรู้จักกับน้องคนนึงจบจากจุฬามาใหม่ๆ เงินเดือนของแรกที่เค้าได้รับคือ
42000บาท
ซึ่งมากกว่าผมอีกที่ทำงานมามากกว่า5ปี
อย่างไรก็ตามโอกาสจะได้เงินเดือนมากๆมีอยู่ด้วยหลายวิธีการ
แต่ต้องสร้างตัวเองให้พร้อมที่จะคว้าโอกาสให้ก่อน
จริงอยู่ว่าความสุขในชีวิตเป็นเรื่องสำคัญ
แต่การมีความสุขโดยไม่คำนึงถึงสภาพเศรษฐกิจในอนาคตจะเป็นระเบิดเวลาแห่งความทุกข์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
คนที่ได้รับความร่ำรวยมาจากพ่อแม่หรือคนที่ได้เงินเดือนมากก็ดีไป
แต่คนที่ไม่ได้เป็นอย่างนั้นแล้วยังคงใช้เงินเกินฐานะ
หรือไม่มีความคิดจะเพิ่มความมั่งคั่งจะเจอปัญหาการเงินแน่ในท้ายที่สุด
จะมีอิสระภาพทางการเงินนี่ไม่ต้องคิดเลย
เอาแค่มีข้าวกินเดือนต่อเดือนก็เหนื่อยแล้ว
ในช่วงชีวิตเริ่มต้นทำงาน (ประมาณ23-30)
ยังไงก็ควรอดความสุขเฉพาะหน้าไปก่อน เพื่อให้เกิดความพร้อมในช่วงวัยกลางคนจะมีโอกาสที่จะรวยได้มากกว่า
แต่ละคนมีแนวความคิดในการใช้ชีวิตที่ไม่เหมือนกัน
ไม่ใช่ว่าการคิดใช้ชิวิตเพื่อสร้างความร่ำรวยโดยยอมสละความสุขไปจะถูกต้อง
แต่หากจะรวยก็จำเป็นต้องเลือกหนทางนี้ ความร่ำรวยมันมีแนวทางของมัน ไม่ใช่ว่าจะได้มาอย่างสบายๆ
เท่ๆสวยๆ
หลายคนผ่านชีวิตวัยหนุ่มจนเข้าสู่วัยกลางคนโดยที่แทบไม่มีเงินเก็บ
แม้เงินเดือนจะเพิ่มขึ้นแต่รายจ่ายก็เพิ่มขึ้นตาม ถึงตั้งใจจะเก็บเงิน
หรือลงทุนในช่วงนี้ก็ไม่สะดวกเท่าไหร่
เพราะเงินที่จะต้องเก็บก็ต้องเอาไปสำรองจ่ายสำหรับเดือนหน้า
ไม่ว่าจะเป็นค่าเทอมลูก ค่าข้าวของคนในครอบครัว ค่าพยาบาลพ่อแม่ ผ่อนรถ ผ่อนบ้าน
หากอยู่ในสภาวะหาเช้ากินค่ำ
หาเดือนนี้จ่ายเดือนหน้าเมื่อไหร่ก็เลิกคิดเรื่องการลงทุนได้เลย และหากเลิกคิดเรื่องลงทุนก็เลิกคิดเรื่องรวยได้เลย
พอผ่านช่วงวัยกลางคนมาได้จนถึงวัยเกษียณแม้ว่าผ่อนบ้านและรถ
และส่งลูกจบหมดแล้วก็ตาม แต่ก็แทบไม่มีเงินเก็บ
ตัวเองสุขภาพไม่สามารถทำงานได้แล้ว แม้รายจ่ายจะลดลง
แต่รายได้ก็ลดลงยิ่งกว่า เพราะแทบไม่ได้สร้างทรัพสินย์มาสร้างรายได้ให้เลย
และไหนจะต้องมีรายจ่ายของค่ารักษาพยาบาลอีก
สุดท้ายแล้วค่ารักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายประจำวันก็ไม่สามารถจ่ายได้
ก็ต้องหวังพึ่งพาลูกหลาน
ลูกหลานก็แบกรับรายจ่ายของพ่อแม่ เงินได้ที่ควรจะเยอะมากขึ้นเพื่อที่จะเอาไปลงทุนก็ต้องเอามาช่วยพ่อแม่ที่กำลังลำบาก
พอถึงเกษียณก็มีฐานะเศรษฐกิจไม่ต่างกับพ่อแม่
ก็ต้องพึ่งพารุ่นต่อไปจนเกิดวงจรความยากจนแบบนี้ในรุ่นต่อๆไป
หากอยากจะมีความสุขที่ต้องใช้เงิน ก็ควรคิดวิธีหาเงินให้มากขึ้น
ติดต่อ 084-919-5600,098-424-7672 Email: toytorich@gmail.com
Facebook : www.facebook.com/toytorich Line : @toytorich