ค่าโสหุ้ย

ตอนอายุ21 ผมเรียนมหา'ลัยอยู่ปี4เคยทำงานแล้วได้เงินก้อนแรกมา35000บาท โดนหักภาษี ณ ที่จ่ายไป 3% เท่ากับ1050บาท เยอะพอสมควรเลยนะครับสำหรับเด็กคนนึง

ซึ่งจริงๆแล้วภาษีก้อนนี้สามารถนำไปขอคืนได้ในตอนปลายปีเพราะรายได้ของเรายังไม่เข้าเกณฑ์การเสียภาษียอดเงินไม่ถึง240,000บาท) คนรอบข้างไม่มีใครมีความรู้ ผมก็ไม่ได้นำไปแจ้งยื่นภาษีแล้วขอคืน

หลังจากที่ทำงานเสร็จก็ยังไม่ได้รับเงินทันทีกว่าจะได้รับก็ผ่านไป1เดือน ผู้จ้างผมก็บอกว่าเป็นเรื่องธรรมดาไม่มีที่ไหนเค้าจ่ายเงินทันทีหรอก

ความรู้สึกของผมในตอนนั้นคือรู้สึกผิดหวัง ไม่เข้าใจรู้สึกเหมือนๆถูกโกง เพราะเคยเข้าใจว่าหลังจากงานจบก็ควรจะได้รับเงินทันที เหมือนๆกับเราขายของออกไปแล้วก็ควรจะได้เงินมา

และงานนี้ผมไม่ได้ทำคนเดียว ผมจ้างเพื่อนๆให้มาช่วยด้วย ผมถึงกำหนดต้องชำระเงินเพื่อนแล้ว แต่เงินที่ผมจะต้องนำไปจ่ายยังไม่ได้ ผมเลยต้องยืมเงินแม่มาเพื่อจ่ายเป็นค่าแรงให้เพื่อนไปก่อนที่ผมจะได้เงิน 1 เดือน

ตอนนั้นผมรู้สึกเคืองพี่ที่เป็นนายหน้าจัดหางานนี้มาให้มาก เหมือนๆถูกเค้าโกง เพราะจำได้ว่าผมโทรไปบอกเค้าว่า

”ผมต้องเอาเงินมาจ่ายเพื่อนแล้วทำไมงานเสร็จแล้วยังไม่ได้เงิน เพื่อนผมเค้าก็ร้อนเงิน”

พี่เค้าบอกว่า “ที่ไหนเค้าก็จ่ายเงินแบบนี้แหล่ะ มันเรื่องธรรมดา ส่วนเรื่องเพื่อนเราร้อนเงินมันก็เป็นเรื่องของเค้าไม่เกี่ยวกับเรา”

ตอนนั้นรู้สึกไม่ค่อยพอใจ แต่ตอนนี้เข้าใจโลกขึ้นมากแล้ว ในหลายๆวงการการจ่ายเงินก็มีเทอมการจ่ายแบบนี้แหล่ะ ไม่ใช่ว่าจะได้เงินทันทีเสมอไป ขึ้นอยู่กับการตกลงกัน

แต่พอลองคิดดูแล้วตอนที่รับงานมาก็ไม่ได้ดุยกันในเรื่องกำหนดการชำระเงินเลย

จำได้ว่าหลังจากที่ได้เงินมาก็ได้เป็นเช็ค ไม่ได้ได้มาเป็นเงินสด ทำให้ต้องเสียเวลาเอาเงินไปฝากที่ธนาคารและต้องโดนหักค่าธรรมเนียมการฝากเช็คไปกว่า 20-30 บาท

วุ่นวายใช้ได้เลยทีเดียว 20-30บาท คือข้าวมื้อนึงของผมเลยนะครับ และยังไม่ได้ฝากให้ทันทีด้วย รู้สึกว่าจะต้องรออีก 2-3วัน

หลังจากนั้นผมได้ทราบว่าเงินค่าจ้างจริงๆคือ 40000บาท พี่ที่ผมรู้จักหักค่านายหน้าไป5000บาท โดยพี่เค้าทำหน้าที่ติดต่อและหางานมาให้

ผมไม่ค่อยรู้สึกอะไรมาก แต่เพื่อนรอบข้างผมก็พากันบ่นใหญ่ว่าไม่ยุติธรรม ไม่ได้ทำอะไรเลยแต่ก็หักไปตั้ง5000บาท

แต่ผมว่ามันยุติธรรมแล้ว สำหรับโอกาสที่เค้ามอบให้เราและการที่เค้าอยู่ในตำแหน่งที่สามารถรับงานนั้นได้

กิจกรรมของเค้าสร้างคุณค่าให้เกิดงานและทำเงินได้ ก็สมควรแล้วที่ต้องตอบแทนให้เค้า

สำหรับค่านายหน้าแค่ประมาณ10%กว่าๆนี้ผมยังถือว่าค่อนข้างน้อยเลยด้วย

เพราะหลังจากตอนนั้นผมเคยรับงานที่ต้องทำงาน5ชม.

ลูกค้าจ่ายเงินมา 2500บาท แต่ผมได้1000บาท ส่วนอีก1500บาท ถูกหักไปจ่ายให้นายหน้า

หมายความว่านายหน้าเอาไป60% (ซึ่งผมไม่ค่อยอยากจะรับงานแบบนี้เลย เหมือนๆคนกลางรับงานไม่ค่อยแฟร์กับเรา มันมากเกินไปสำหรับนายหน้าที่ไม่ได้ลงแรง)

โลกของการธุรกิจมีกฏเกณฑ์ต่างๆที่แตกต่างกันไป เราอาจจะไม่มีกำลังที่จะเปลี่ยนกฏเกณฑ์ที่บางครั้งไม่ยุติธรรมกับเราได้

แม้ว่าจะได้เงินมาแล้วแต่ในสังคมก็มีค่าโสหุ้ยต่างๆที่จะดึงเงินเราออกไป แต่มันก็เป็นเรื่องธรรมดา สิ่งที่เราทำได้คือเรียนรู้หาวิธีหลีกเลี่ยงมัน ใช้ประโยชน์จากมัน

ก่อนจะเล่นเกมควรจะเข้าใจกฏของเกมก่อน